ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ผลจากการเจ้าหน้าที่ตรวจค้น 2 จุด แรกบริเวณบ้านหรูหลังหนึ่ง แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร สามารถตรวจยึดของกลาง ได้ 34 รายการ ประกอบด้วย กระเป๋าแบรนด์เนม 21 รายการ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง , พระเครื่อง 3 องค์ , นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน , บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด 3 ใบ , กุญแจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ 1 ดอก และ Token key 1 อัน
ส่วนจุดที่สองบริเวณบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไม่พบสิ่งของให้ทำการตรวจยึด ก่อนนำมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ที่ กองปราบปรามเพื่อนำมาตรวจสอบว่าได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อหาที่แจ้งไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ขณะที่มีรายงานว่า ทนายตั้มและภรรยาให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากในหมายจับ ระบุ มีหลักฐานตามสมควรว่า ได้หรือน่าจะทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี , ได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น
อย่างไรก็ตามด้าน นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และภรรยา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมยื่นประกันตัวทั้งคู่ว่า ทนายตั้มยืนยันกับตัวเองในฐานะทนายความตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้แล้วว่า มีความประสงค์ไม่ต้องยื่นประกันตัวให้กับทนายตั้ม ขอเพียงยื่นประกันตัวให้ภรรยาเพียงผู้เดียว
