เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 67 เพจ CSI LA ได้เผยข้อความระบุว่า รวมพิรุธใหญ่ คดีแตงโม สภาพร่างกาย
– แผลกรีดยาวขีดเดียว ที่ขาด้านในข้างเดียว แพทย์ปกติทั้งนอกและในประเทศคนอื่นๆ มีความเห็นตรงกันว่าเป็นแผลจากมีดของมีคม ไม่ได้มาจากใบพัดเรือตามที่คนบนเรืออ้าง
– มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น แสดงว่าโดนกรีดขาบนบก ไม่ใช่แผลจากใบพัดในน้ำ ที่เลือดจะกระจาย ไม่สามารถเกาะเป็นลิ่มได้
– ถ้าเป็นผู้หญิง จะรู้ดีว่าไม่สามารถนั่งฉี่สภาพนั้นได้เลย เพราะต้องเอามือแหวกทั้งบอดี้สูท และจับผ้าคลุมที่ยาวพะรุงพะรังด้วย แต่นายแซนเล่าว่า แตงโมเอามือจับขาตัวเองทั้ง 2 มือ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีมือแหวกอะไรอีกให้ฉี่ได้เลย ซึ่งนายแซนอาจลืมความจริงนี้ เพราะตัวเองมองการฉี่เป็นเรื่องง่ายทำที่ไหนก็ได้ จึงเป็นคนที่กล่าวหาแตงโม ว่าฉี่ที่ไหนก็ได้ง่ายๆเหมือนตัวเอง และเคยแอบถ่ายก้นแตงโมจากด้านหลัง โฟกัสที่หว่างขาใต้กระโปรงมีผ้าอนามัยปลิ้น แต่อ้างแอบถ่ายเพราะเห็นว่าสวย ถ้าแตงโมรู้จะไม่ยอมให้นายแซนถ่ายภาพอนาจารแบบนี้แน่นอน
– แตงโมเข้าห้องน้ำแล้วก่อนขึ้นเรือ และยังจอดแวะได้อีกตามร้านริมน้ำ ในเรือเองยังมีห้องน้ำ ข้ออ้างว่าแตงโมไปนั่งแหกฉี่ในที่กลางแจ้งและผู้ชายหลายคนสามารถเห็นได้จึงฟังไม่ขึ้น และเป็นการกล่าวหาแตงโมลอยๆ ที่รุนแรง และไร้หลักฐาน มีแต่คำอ้างนายแซนคนเดียว เพราะแตงโมเป็นคนห่วงภาพลักษณ์มาก ขนาดภาพ Tag ที่ดูไม่ดี ยังส่งข้อความบอก โบ TK ให้ช่วยเอาออก
– พบศพในจุดทวนน้ำจากจุดที่อ้างว่าฉี่แล้วตก ถ้าตกจริงต้องไหลตามน้ำ พบจุดถัดไป
– ถ้าฉี่ตกท้ายเรือเองจริง จะไม่มีทางโดนใบพัด เพราะเรือพุ่งไปข้างหน้า และไม่มีทางจะโดนดูด แต่จะโดนแรงดันลอยออกไป ถ้าคนเล่นเรือหรือเล่นกีฬาทางน้ำ จะรู้ตรงจุดนี้ดี และแหกขาอย่างไรให้ผิดธรรมชาติ จนโดนใบพัดฟันขาด้านในอยู่ข้างเดียว และขีดเดียว
กระบวนการยุติธรรม
– หลังเกิดเหตุตำรวจปล่อยเรือที่เป็นวัตถุพยานสำคัญที่สุด เก็บกลับเข้าอู่เรือทันที และปล่อยคนบนเรือกลับบ้านสบาย มีเวลาเตี๊ยมเล่าเรื่อง ไม่กันวัตถุพยานไว้ ไม่สอบปากคำเวลานั้น ว่าพูดเหมือนกันไหม มีพิรุธคำให้การไหม เพื่อนรักหายจมน้ำไปทั้งคน แทนที่จะรอที่โป๊ะเรือ แต่กลับไปจดจ่อกันที่อู่เรือ เก็บเรือ ล้างเรือ สำคัญกว่าเก็บชีวิตแตงโม
– คนบนเรือปฏิเสธการตรวจสารเสพติดได้ ทั้งๆที่มีประวัติเสพ และเป็นคดีมีคนเสียชีวิต ประชาชนคนอื่นปฏิเสธการตรวจแบบนี้บ้างได้ไหม
– หมอธวัชชัย และหมอนิติวิทยาศาตร์ อีกหลายคน ที่สามารถแสดงหลักฐานชันสูตรชัด กลับไม่นำเข้ามาเป็นพยานในคดี รวมถึง ไทด์ อาชีพกู้ภัย ที่พบว่านี่ไม่ใช่สภาพของคนจมน้ำปกติ
– ตำรวจและอัยการชุดทำคดีนี้ ทำสำนวนให้เป็นแค่ประมาทอุบัติเหตุเลยตๅย ผิดแค่ไม่มีใบขับขี่ ไม่ใส่ชูชีพ ทิ้งของลงแม่น้ำ และกินเหล้าเท่านั้น
– มีเส้นผมเพิ่งโผล่มาใหม่ที่ท้ายเรือ ให้รับคำพูดคนบนเรือ หลังจากพบศพแตงโมแล้ว ในการตรวจเรือ “ครั้งที่ 4” จากอู่เรือที่ “กล้องวงจรปิดเสีย” และไม่ใช่สถานที่ไว้เฝ้าเก็บของกลาง ตามหลักสากลหลักฐานที่ไร้ความเป็นมาและความน่าเชื่อถือแบบนี้ ใช้ไม่ได้เลย – มีเจ็ทสกี 4 ลำ นำทาง แต่ตำรวจอ้างว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
– ไม่มีการกระชากเรือทำให้ตก พิสูจน์จาก GPS เรือที่ความเร็ว 8 นอตคงที่ ณ เวลา 22.34 น. ที่อ้างว่าแตงโมตกเรือ
– ภาพแผลผู้หญิงต่างประเทศ ที่ตำรวจนำมาแถลงข่าว ว่าเหมือนแผลแตงโม โดนจับโป๊ะแล้วว่า เป็นแผลจากมีดกรีด ไม่ใช่แผลจากใบผัดเรืออย่างที่พยายามนำมาบิดเบือน เป็นหลักฐานเท็จ “ไปฉี่ท้ายเรือแล้วตกเรือโดนใบพัดตๅยเอง” เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ที่ใส่ร้ายแตงโมอย่างน่าอัปยศ แผลที่โดนมีดกรีดยาวขีดเดียว ที่ต้นขาข้างเดียวนั้น ใครเป็นคนทำ ? มีช่องโหว่ในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นทาง แล้วผู้เสียชีวิตจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร เรื่องดังแล้วยังทำได้ขนาดนี้ แล้วถ้าคนธรรมดาโดนล่ะ ความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องให้แม่แตงโมเอาเรื่องได้คนเดียว แม้แม่จะได้เงินจากลูกใหม่ รักลูกใหม่แล้ว แต่เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่ว่าแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ พร้อมเข้าคดีประจักษ์ กฎหมายสร้างขึ้นมาเพื่อผดุงความยุติธรรม รอดูว่าจะ “ใช้กฎหมาย” ให้ความยุติธรรมแตงโมได้ไหม
แม้ใครจะรักแตงโมไม่จริง แต่มีผู้ชายคนนึงที่ยังคงมีความรักอย่างจริงใจให้เธอ และมีหวังในกระบวนการยุติธรรม ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังปักหมุดรูปถ่ายแตงโมไว้บนสุดในไอจีตนเองไม่เปลี่ยน ที่ผ่านมาเบิร์ดได้พิสูจน์แล้ว ไม่เคยหิวแสงหาผลประโยชน์ใดจากการเสียชีวิตแตงโมเลย ทั้งๆที่เป็นคนที่สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้มากสุด ถึงตอนนี้แล้ว หากจะเบิร์ดจะออกมาพูดเหมือนคนอื่นบ้างก็ย่อมได้ แต่ถ้าไม่ ก็ไม่แปลกใจ เพราะใจคุณมันใช่และเป็นตำนาน ขอบคุณที่ทำให้เห็น ว่ารักแท้มีอยู่จริง และเป็นความสุขทางจิตวิญญาณของแตงโม 13 รูปนี้เพื่อคุณ
