ทีมสัตวแพทย์เริ่มกายภาพบำบัด “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ทีมสัตวแพทย์จากหลายสถาบันร่วมกันดูแลและฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียวัย 3 วัน ที่พลัดหลงจากฝูงในพื้นที่ป่า อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถูกนำมาดูแลที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก

ทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัดทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัด

สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของพังข้าวต้มคงตัว สามารถกินนมได้ดีขึ้น และมีการตอบสนองต่อการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมสัตวแพทย์เฝ้าสังเกตพฤติกรรม สุขภาพ และการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกช้างได้รับโภชนาการและการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

จากการตรวจวินิจฉัยโดยคณะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ลูกช้าง “พังข้าวต้ม” มีความผิดปกติแต่กำเนิดของ เส้นเอ็นกลุ่มที่ทำหน้าที่งอข้อขาหน้า (Congenital anomaly of the Flexor group) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยในลูกช้าง ทำให้ทีมสัตวแพทย์ได้จัดทำแผนฟื้นฟูอย่างเข้มข้น โดยเน้นการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เช่น การใช้อัลตราซาวด์บำบัด การยืดเหยียดข้อต่อ และการใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อให้แข็งแรง

ทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัดทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัด

 

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนโภชนาการและการดูแลด้านสุขภาพอื่น ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อให้ พังข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง เติบโตอย่างสมบูรณ์และพร้อมกลับคืนสู่ธรรมชาติในอนาคต

ทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัดทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยกายภาพบำบัด