ล่าสุ ตุ๊ก ชนกวนัน ได้เปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ที่โพสต์ไปเหมือนแจ้งให้ทราบ เหมือนว่าตอนช่วงที่เราเรียน เราก็ประชาสัมพันธ์ เราก็เลยอยากให้คนพอจะทราบในสิ่งที่เราโดนมา อันดับแรกคือไม่อยากให้ใครเจอแบบเรา อันดับสอง ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า บางท่านบางบ้านเขามาเรียนตามที่เรารีวิว เราก็เลยอยากจะรับผิดชอบในหน้าที่ตรงนี้ให้คนได้ทราบว่าตอนนี้เรายุติการเรียนแล้ว

คือเล่าคร่าวๆ ในสิ่งที่เขาทำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง การชักชวนให้สะเดาะเคราะห์ หล่อพระทั้งที่ไม่เคยเห็นพระ เอาเป็นว่าประมาณเนี่ย จะเกี่ยวกับเรื่องบุญ ก็เป็นเรื่องความเชื่อ แล้วก็เป็นเรื่องของสินค้า พวกชา ยานัด ก็คือมีขายสินค้าระหว่างเรียน การขายคอร์สเรียนแพ็คเก็จเป็นปี พอเราเรียนก็ไม่ว่างไม่มีเวลา คือส่วนใหญ่คนอื่นจะโดนเรื่องความเชื่อเยอะ ส่วนของตุ๊กอ่ะมันไม่ใช่เรื่องทำบุญ แต่เป็นเรื่องสตางค์ ขายของ

คือตุ๊กอ่ะไม่ใช่เป็นคนที่หวงลูกขนาดนั้นนะ จะครูแบบโอสคูลก็ชอบ มีวินัยหรือหัวโบราณก็ชอบ แต่ในลักษณะที่ตุ๊กรู้สึกว่ามันเหมือนบูลลี่ กดทับเด็ก เด็กมันก็ไม่เบิกบานที่จะเรียน มาพูดว่าเด็ก กระตุ้งกระติ้งแบบนี้ คือนึกออกไหม มันไม่ดีและหยาบคาย พูดหยาบคายแรงๆ กดขี่ แต่ว่าตอนนี้ก็อยู่ในขั้นชั้นศาล