จากที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าอีก 4 ปีถ้าไม่มีลูกจะไม่มีแล้ว แต่ล่าสุดลดเหลือ 2 ปี เพราะอะไร
หญิง รฐา : ตอนนี้ 41 แล้ว เรารู้สึกว่า 42 43 ก็น่าจะแม็กซิมั่ม ที่ควรมีลูกแล้ว อายุครรภ์ เด็กที่อยู่ในท้องด้วย ก็เลยไม่ได้โฟกัสแล้ว ดีเจพุฒก็ชอบขยี้ไง ภรรยานางเป็นเพื่อนกัน ก็ชอบขยี้ ภรรยานางอายุเท่ากัน พอมีลูกสองคนนางก็ขยี้
ก่อนหน้านี้ไม่อยากมีลูกเลย อะไรทำให้ใจอ่อนพร้อมมีแล้ว
หญิง รฐา : จริงๆ ไม่ได้อยู่ในสเตทที่อยากมีหรือไม่อยากมี หญิงคุยกับพี่ตุลย์ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าถ้ามาธรรมชาติก็โอเค ถ้ามีก็อยากเลี้ยงให้ดีแหละ พ่อก็สายกีฬาไป เราก็ให้มาทางนักร้อง
แต่คุณไม่ยอมธรรมชาติ แล้วจะมาได้ยังไง
หญิง รฐา : (หัวเราะ)
เคยตรวจเจอเนื้องอก
หญิง รฐา : ประมาณสัก 5 ปีที่แล้ว คุณแม่อยากให้ฝากไข่ ก็เป็นขั้นตอนต้องตรวจภายในทุกอย่าง ก็ไปเจอเนื้องอก ซึ่งตัวเนื้องอกเขาไม่ได้อยู่ในมดลูกนะ เขามีฐานอยู่ในมดลูก ตัวเนื้องอกมันออกมาดันลำไส้ เราก็เหมือนต้องฟอลโลว์อัพทุกปี ระหว่างนั้นเคยถามคุณหมอว่ากรณีเราอยากตั้งครรภ์จะเป็นยังไง คุณหมอบอกว่าเป็นความเสี่ยงสองแบบ ถ้าเราตัดทิ้ง ตัดเนื้องอกออกไป ก็จะมีสกาบริเวณขอบมดลูก
หญิง รฐา : กรณีที่ลูกโตแล้วมีแผลปริ เราก็จะตกเลือดก็จะอันตราย กรณีไม่ผ่าเด็กกับมดลูกก็ต้องแย่งอาหารกัน เราก็เลยรู้สึกว่าตามธรรมชาติของเราถูกกำหนดว่าให้ไม่มีหรือเปล่า ก็เลยเป็นอีกจุดที่เราคอนเซิร์นเรื่องการมีลูก ตอนนี้หญิงก็ฟอลโลว์อัพทุกปี และควบคุมอาหารที่เป็นฮอร์โมน ทานน้ำตาลให้น้อยลง อาหารที่เป็นพวกฮอร์โมน สัตว์ที่เป็นเนื้อแดง หรือสัตว์เนื้อขาวบางจำพวก ก็ทานน้อยลง
ตอนนี้อยู่ในภาวะปกติ
หญิง รฐา : ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ผ่าตัดออกไป แค่มอนิเตอร์ แต่ก่อนเขาโตปีละเซนฯ ประมาณสองปีมานี้ไม่โตแล้ว เพราะเราควบคุมอาหาร พอควบคุมพวกฮอร์โมนเอสโตรเจนก็ดีขึ้น
สามีว่าไงบ้าง
หญิง รฐา : เขาก็ไม่อยากให้เราผ่าตัด เขาก็ศึกษาเยอะ คิดว่าการผ่าตัดน่าจะเป็นช้อยส์สุดท้ายที่เราเลือกทำ เขาก็เลยถ้าไม่ได้กระทบการใช้ชีวิต ประจำเดือนมาปกติ ไม่มีอาการปวดท้องอะไร ก็ปล่อยเอาไว้อย่างนั้นก็ได้