ต่อมาผู้เสียหายเริ่มโอนเงินครั้งแรกจำนวน 6,000 บาท ผ่านไปสักระยะได้มีข้อความส่งกลับมา ว่าผู้เสียหายได้กำไร 665 บาท จึงได้ทดลองถอนเงินทั้งหมดออกจากบัญชี ปรากฏว่าสามารถถอนเงินออกมาได้จริง จำนวน 6,665 บาท ผู้เสียหายเห็นว่าโอนเงินแล้วได้เงินกลับมาจริง จึงได้ลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง ครั้งละตั้งแต่ 40,000 จนถึง 100,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายได้ติดต่อเพื่อขอถอนเงินที่ลงทุนไป ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 250,000 บาท และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดได้แล้ว จำนวน 4 หมายจับ และจับกุมมาดำเนินคดีได้แล้ว 1 ราย
ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งรัดจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด กระทั่ง พ.ต.ต.รุ่งเรือง มีสติ สว.กก.4 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาเพิ่เติมได้อีก 1 ราย คือ นายวิเชียร อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 810/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.16 ต.ทุ่งทราย อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป