วันที่ 26 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นายเมธชัยเกียรติ อายุ 29 ปีภูมิลำเนา แขวงคลองกุ่ม เขต บึงกุ่ม กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1250/2567 ลงวันที่ 13 กันยายน 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอรลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยมิได้กระทำแก่ประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
จับกุม ริมถนนสายท่าเสา-หนองดง ม.2 ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จว.พิจิตร
จากการตรวจสอบยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย คือ หมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.157/2566 ลงวันที่ – มีนาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ”
พฤติการณ์ เมื่อประมาณวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ผู้กล่าวหาพบเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊กซึ่งเป็นสาธารณะชักชวนให้มาศึกษาและลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น ที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทชื่อ “Paiboon ห้องอบรมหุ้น068” ผู้กล่าวหาสนใจจึงได้เพิ่มเพื่อนและเข้าไปอ่านข้อมูลในห้องไลน์โอเพนแชทดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ตัดสินใจลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงเป็นคร้ังแรก ด้วยจํานวนเงิน 3,000 บาท โดยได้ทําการโอนเงินออนไลน์จากแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย ของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชี ชื่อบัญชี นายเมธชัยเกียรติ และในวันเดียวกันเวลา ผู้กล่าวหาได้รับเงินลงทุนพร้อมกําไรยอดจํานวน 3,245 บาท คืนเข้ามายังบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ด้วยเงินลงทุนก้อนแรกและผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งขั้นตอนการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว ทําให้ผู้กล่าวหา เชื่อมั่นและวางใจในการลงทุนที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทดังกล่าว จึงได้ลงเงินทุนเพิ่มขึ้นอีกคือยอด 15,000 บาท เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีชื่อนางสาวดวงนภา และครั้งสุดท้ายด้วยยอด 15,000 บาท เมื่อวันท่ี 25 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีออมสิน ชื่อนายทวีศักดิ์ ด้วยความหวังที่จะทํากําไรจากการเทรดหุ้นฮ่องกงกับกลุ่มไลน์โอเพนแชทนี้
แต่เมื่อการเทรดหุ้นจบลงในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ทําการถอนเงินพร้อมกําไรออกจากบัญชีในแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเทรดหุ้น ฮ่องกงมาสู่บัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา แต่เงินไม่เข้า ผู้กล่าวหาจึงถามไปยังผู้ประสานงานหรือฝ่ายบริการ และได้รับแจ้งว่าจะต้องจ่ายค่ากองทุนการกุศลและภาษีหุ้นฮ่องกงก่อนจึงจะสามารถถอนเงินออกจากพอร์ตการลงทุนได้ ผู้กล่าวหาได้ตอบกลับไปว่าผู้กล่าวหายินดีจะจ่ายภาษีหุ้นฮ่องกงอยู่แล้วโดยจะทําการเข้าระบบและโอนจากบัญชีเทรดไปยังบัญชีกองทุนและภาษี แต่ผู้ประสานงานบอกว่า ต้องจ่ายเข้าไปที่บัญชีทหารไทยธนชาต ชื่อนายอิทธิวัฒน์ ผู้กล่าวหา จึงเริ่มสงสัยในพฤติกรรมหรือขั้นตอนอันไม่ชอบมาพากลนี้ จึงเชื่อว่าตัวเองโดนหลอกให้ลงทุนออนไลน์ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อกลางปี 2566 ตนเองได้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับเพื่อนใช้ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเพื่อนอ้างว่าไม่ผิดกฎหมาย จึงยินยอมไปเปิดบัญชีธนาคารให้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเนื่องจากเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทตน มาทราบอีกทีก็พบว่ามีหมายจับ จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนผู้ที่อยากลงทุนและประชาชน อย่าหลงเชื่อเพจปลอมหรือกลุ่มโซเชียลต่างๆ หลอกลวงให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน อ้างว่าได้ผลกำไรเยอะ แรกลงทุนจะได้รับเงินตอบ แต่เมื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะถอนเงินคืนไม่ได้ อ้างสารพัด สุดท้ายก็สูญเงิน ดังนั้น หากเพจ Facebook หรือ Line หรือ สื่อโซเชียลมีเดียใด ๆ ที่มีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ภาพผู้บริหาร และพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ชักชวนให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพสุดท้ายหากท่านตกเป็นเหยื่อ ให้รีบโทรแจ้งศูนย์AOC 1441 ทันที