โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำนักงานแรงงานจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 บริษัทดังกล่าวได้ประกาศหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากบริษัทแม่ประกาศล้มละลายต่อศาลประเทศญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อการจัดซื้อวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิต โดยทางบริษัทจะจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างในอัตราร้อยละ 75 ของค่าจ้างตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีความห่วงใยลูกจ้างทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และมอบหมายให้หน่วยงานของกระทรวงแรงงานลงพื้นที่เก็บข้อมูลและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างตามกฎหมายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งค่าจ้าง สิทธิประโยชน์ประกันสังคม และอื่น ๆ
ท่านพิพัฒน์ให้ติดตามดูด้วยว่า หลังจากวันที่ 30 พ.ย.ไปแล้ว บริษัทจะดำเนินการอย่างไร และลูกจ้างจะมีโอกาสเช่นไรต่อไป หากมีแนวโน้มที่จะว่างงานก็ขอให้สำนักงานจัดหางานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานในพื้นที่เร่งเข้าไปแนะนำตำแหน่งงานว่างแก่ลูกจ้าง หรือฝึกอบรมพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อสร้างอาชีพใหม่หรือใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ระหว่างรองาน รวมทั้งให้กระทรวงแรงงานเฝ้าติดตามสถานการณ์การเลิกจ้างทั่วประเทศ เพื่อดูแลช่วยเหลือลูกจ้างที่อาจได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงทีด้วย นายภูมิพัฒน์ กล่าว