ลีซอ แจง ปัดเกี่ยวข้อง ดิ ไอคอน กรุ๊ป รับเคยเปิดบิลสั่งซื้อเพราะความสงสาร

หลังจากที่เพจโซเชียล อีซ้อขยี้ข่าว  ขุดรูปเก่าตั้งแต่ปี 2565  เป็นโพสต์ภาพต้อนรับ โดยมีบอสพอลยืนคู่กับลีซอ และข้อความ ต้อนรับ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย อดีตกองหน้าดีกรีทีมชาติไทย เข้าสู่ครอบครัวดิไอคอน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล

ลีซอ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังมีภาพว่อนโซเชียลเป็นหนึ่งในสมาชิกดิไอคอนกรุ๊ป โดยชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาชี้แจงในฐานะเป็นผู้เสียหาย ปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นแม่ทีมของดิไอคอนกรุ๊ปตามที่ภาพออกไป  เคยเปิดบิลแต่ไม่เคยขายสินค้าให้ใครมาก่อน แต่ตนเองตกเป็นผู้เสียหายมากกว่า  เนื่องจากรู้สึกว่าทางบริษัทไม่ได้บอกข้อมูลตนเองทั้งหมด

ส่วนที่เปิดบิลซื้อสินค้า เพราะเนื่องจากมีน้องที่เป็นแม่ข่ายรู้จักกันมาก่อนและก็มีโอกาสพูดคุยกัน โดยเริ่มแรกได้พูดคุยกันในส่วนของที่ตรวจ ATK เพราะภรรยามีการทำธุรกิจเกี่ยวกับATK เเม่ข่ายคนดังกล่าวก็ได้มีการชักชวนให้เข้าไปพูดคุยกันต่อในออฟฟิศ ซึ่งตนคิดว่าจะพูดคุยกันในส่วนของธุรกิจภรรยา จึงเดินทางไปด้วย แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าแม่ข่ายคนดังกล่าวพยายามชักชวน ให้ซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงมีการพูดคุยกันและชักชวนให้ไปฟังข้อมูลต่างๆ ที่ออฟฟิค ซึ่งด้านหน้าออฟฟิคก็มีรถซุปเปอร์คาร์จอดอยู่  ดูเหมือนน่าเชื่อถือมาก

จากนั้นก็มีการพาไปห้อง VIP พูดคุยข้อมูลบริษัท ข้อมูลสินค้า เอาสินค้ามาให้ทดลอง เหมือนโดนหว่านล้อม จึงสมัครเพื่อช่วยน้อง และได้ของมาทานด้วย ก็เลยเปิดบิลไป และถูกโน้มน้าวให้ซื้อสินค้าไปทดลอง

โดยลงทุนไปจำนวนเกิน 220,000 บาท เนื่องจากตอนนั้นมีโปรโมชั่น เป็นการสตอกสินค้าคอลลาเจนจำนวนประมาณ 10 ลัง ไม่ได้รับของมา เป็นการสตอกของเอาไว้ที่บริษัท โดยทางบริษัทให้ความเชื่อมั่นว่าไม่ต้องห่วง เหมือนกับเคสของผู้เสียหายหลายๆคน

และจากที่ได้ตรวจสอบทางบริษัทมีการขายสินค้าดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาที่ถูก แต่ขายให้กับดีลเลอร์ในราคาที่ต่างกัน ซึ่งตนเองมองว่าหากจะขายปลีกก็ขายลำบาก และมองว่าไม่ใช่ทางของเรา จึงไม่ได้มีการขายให้ใคร  และไม่เคยชวนใครมาสมัครเป็นสมาชิกอีกด้วย

ส่วนภาพถ่ายคู่กับบอลพอลที่ปรากฏออกมาว่า เป็นสมาชิกดิไอคอนกรุ๊ปนั้น เมื่อไปถึงออฟฟิคก็เจอบอสพอล ก็ทักทายกันตามปกติ และมีการขอถ่ายรูปด้วย ซึ่งเป็นการเจอกับบอสพอลครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ลงมาข้างล่างก็มีตัวแทนมาขอถ่ายรูปอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติมักจะมีคนมาขอถ่ายรูปด้วยอยู่แล้ว ตนเองเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วจึงให้ถ่ายรูป แต่ไม่ทราบว่าภาพจะถูกนำไปโปรโมทให้กับบริษัท

ส่วนมีการพูดคุยกับแม่ขายคนสนิทเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น ตนเองไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่พบเจอก็ทักทายกันปกติ ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ได้ติดใจอะไร ที่ตัดสินใจลงทุนเพราะเป็นขี้สงสารและคนชอบช่วยเหลือคนสนิทอยู่แล้ว

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ได้พาอดีตผู้บริหารเดินทางมาที่ตำรวจสอบสวนกลาง เพราะทางตำรวจต้องการอยากได้ข้อมูลจากบุคคลใกล้ชิดระดับสูง ตนเองเชื่อว่ามีบุคคลระดับสูงของบริษัทหลายคนที่มีข้อมูล มองว่า ถ้าจะเอาผิดพวกบอสระดับสูง ข้อมูลจากบรรดาแม่ข่ายจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีพยานหลักฐานถึงผู้บริหารระดับสูงได้ ใครที่กำลังด่าแม่ทีมอยู่ ขอให้ช่วยเปลี่ยนเป็นการเกลี้ยกล่อมให้เขามาให้ข้อมูลแทน เพื่อให้มีข้อมูลชั้นดีที่เป็นพยานหลักฐานและอย่างน้อยช่วยเป็นการผ่อนเบาโทษของแม่ข่ายเหล่านี้จากหนักให้เป็นเบา