นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า การดำเนินการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัด สพม.สระแก้ว ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตามประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ และแบบสัญญาจ้างของพนักงานราชการ พ.ศ. 2552
แล้วและในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบข้อพิรุธใด ในขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่การออกประกาศรับสมัครจนถึงขั้นตอนการประกาศผลการสอบคัดเลือกในวันที่ 9 กันยายน 2567
จนกระทั่ง หลังจากที่มีการลงประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ในเว็บไซต์ของ สพม.สระแก้ว ปรากฏว่า มีบุคคลภายนอกนำข้อสอบบางข้อไปโพสต์ ใน Social ว่าข้อสอบผิด และมีผู้โทรมาสอบถามเจ้าหน้าที่ของ สพม.สระแก้ว เกี่ยวกับข้อสอบที่ผิด และถามถึงการดำเนินการว่า มีการดำเนินการในเรืองที่ข้อสอบผิดอย่างไร
และจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ผลคือกรณีดังกล่าวเชื่อได้ว่าไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขผลการสอบใด ๆ จากนั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ประสานขอให้นางสาวเบญญาภา เย็นอุดม มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่นางสาวเบญญาภา เย็นอุดม ปฏิเสธการเข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ดังนั้น จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสรรหาและเลือกสรรฯ รายใด มีพฤติการณ์เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลการสรรหาและเลือกสรรฯ อันเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้ารับการสรรหาหรือเลือกสรรฯ รายหนึ่งรายใด ที่ส่อไปในทางทุจริต
แต่การดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ผิดพลาด เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ไม่แนบเอกสารประมวลผลคะแนนการสอบ พร้อมกับการเสนอร่างประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ
บัดนี้ สพฐ.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อประเด็นนี้แล้ว ดังนั้น กรรมการภายนอก เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากความประมาทเลอรเลอร์ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อทางราชการ และการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้ที่กระทำดำเนินการด้วยความประมาทนี้เป็นการดำเนินการที่ชอบแล้วของ สพฐ. ส่วน กรรมการชุดอื่นจึงยุติไป
ส่วนหลังจากการสอบสวนส่วนของ สพฐ. จะเป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นเรื่องของ สพฐ. ส่วนสาเหตุที่ผมออกมาแถลงข่าวในวันนี้ เพราะเราได้ข้อสรุปแล้ว ว่าขบวนการในการสอบไม่ได้มีส่วนที่ขัดต่อระเบียบหรือผิดกฎหมาย แต่ขบวนการในการประกาศชื่น ที่มีความประมาทเลินเล่อที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมและผู้ที่กระทำผิดนั้นก็ต้องได้รับการลงโทษ ส่วนการลงโทษก็ขอให้เป็นขบวนการของ สพฐ.ต่อไป
ส่วนการเยียวยาครูเบญ รมว.ศึกษาธิการก็ได้มีการเสนอ แต่เนื่องจากวันที่ครูเบญมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เคยบอกไว้ว่าถ้าเขาได้คะแนนที่ผ่านเกณฑ์เขาก็ควรจะได้เป็นครูผู้ช่วย แต่ในกรณีนี้ครูเบญได้คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ดังนั้น ถ้าครูเบญประสงค์จะกลับไปรับตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว ทาง สพฐ.ก็ยินดี และเท่าที่ทราบขณะนี้ครูเบญได้กลับไปทำงานที่เดิมแล้ว ซึ่งที่เดิมก็ยินดีรับครูเบญกลับเข้าไปทำงานด้วย และจะติดตาม
ส่วนบัญชีรายชื่อที่ว่าขณะนี้ยังไม่มีการเรียกบรรจุ ให้เป็นขบวนการของ สพฐ.ดำเนินการหลังจากนี้ เพราะขณะนี้คนที่ได้คะแนนสูงสุดก็ได้รับความเดือดร้อนมาก รอมาหลายเดือนแล้วเช่นกัน ส่วน ผอ.สพม.สระแก้ว ขณะนี้ชื่อได้ถูกย้ายไปอยู่ที่ สพป.เขต 4 จ.กาญจนบุรี ส่วนตัวยังถูกสั่งพักราชการอยู่