ล่าสุดทางด้าน อิงฟ้า วราหะ ได้เปิดใจว่า ตนทราบเรื่องแล้ว ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ จนตี 4 ชาล็อตไปลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย
มิจฉาชีพอ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ มีการพูดข่มขู่ว่าไม่ให้พูดว่าอยู่ที่ไหน และวิดีโอคอลเพื่อไม่ให้ชาล็อตติดต่อกับใคร และชาล็อตกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจาะข้อมูลว่าคุยกับใคร อยู่ตรงไหน จึงส่งข้อความมาแล้วลบ ชาล็อตน่าจะกลัว เลยทำอะไรไม่ถูก
ตอนนี้ชาล็อตปลอดภัยดีแล้ว มิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไป 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกล่อว่าเป็นการฟอกเงิน ความเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน คล้ายๆ เปิดบัญชีม้า ตนเองก็เป็นห่วง ยังไม่ได้นอน เพราะพยายามติดต่อเลขาของชาล็อตตลอด แต่พอทราบว่าชาล็อตปลอดภัยดีก็โล่งใจขึ้น
ตอนนี้บอสณวัฒน์อยู่ฟิลิปปินส์ ช่วงนี้มีเรื่องให้เครียดเยอะ คิดว่าเสร็จภารกิจก็น่าจะรีบกลับมา บอสเป็นห่วง ห่วงทุกคนในองค์กรอยู่แล้ว โดยฉพาะเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางบอสและชาล็อตอาจจะมาแถลงข่าวถึงรายละเอียด น่าจะมีคนอยากทราบไว้เป็นอุทาหรณ์ อิงฟ้า ยอมรับว่าตนก็เคยโดนมิจฉาชีพโทรมา บอกเป็นตำรวจ บอกว่าตนเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน ตนก็รีบตั้งสติ ถามเขาว่าชื่ออะไร ทำหน้าที่อะไร อยู่ สถานีตำรวจไหน ตนถามอีกฝ่าย 3 รอบจนอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิด ตอนแรกว่าจะตัดสาย
แต่เคยมีประสบการณ์ว่าตัดสายแล้วก็ยังเปลี่ยนเบอร์ใหม่โทร.มาเรื่อยๆ เลยให้พี่ซันคุย อีกฝ่ายหัวเราะ แล้วพูดคำหยาบใส่ และตัดสายไป หลังจากนั้นก็ไม่โทรมาอีกเลย อิงฟ้าเข้าใจ เมื่ออยู่ในเหตุการณ์จริง บางคนตื่นตระหนก แต่ต้องใจเย็นๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคน ว่าหลักการทำงานของตำรวจ ถ้ากระทำความผิดจริงๆ อย่างมากเขาจะโทรเรียกไปสอบถามที่สถานีตำรวจ จะไม่มีการสอบถามข้อมูลเชิงลึกผ่านทางออนไลน์แน่นอน ยอมรับว่าปราบปรามพวกมิจฉาชีพไม่ได้ และมันตามตัวยากมากๆ มันเกิดขึ้นเยอะมากๆ อยากให้ระวังกัน หลังๆ ตนไม่รับเบอร์แปลก ถ้าติดต่องานก็ผ่านทางกองไปเลย บางทีการพูดคุยก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร อาจดึงเสียงไปดัดแปลงอีก อันตรายรอบด้าน