กลายเป็นเหตุการณ์ชวนตกใจทั้งวัด หลังเพจ วัดราษฎร์ประคองธรรม ไลฟ์สดเหตุไม่คาดคิดขณะประกอบพิธีฌาปนกิจตามโครงการ “บ้านหลังสุดท้าย” เมื่อญาตินำร่างคุณยายรายหนึ่งมาเตรียมประกอบพิธีเผา แต่ทันทีที่เปิดโลง ทุกคนกลับต้องตกใจเพราะผู้ที่คิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว “ยังมีชีวิตอยู่” และขยับตัวได้อย่างชัดเจน ทำเอาผู้ที่อยู่ในงานตกใจแตกฮือกันทั้งศาลา
น้องชายของคุณยาย เล่าย้อนว่า ตนดูแลพี่สาวมาตลอด 3 ปี จนกระทั่งคืนก่อนเกิดเหตุ ซึ่งขณะนั้นเขาอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ทางญาติระบุว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว มีการออกเอกสารยืนยันครบถ้วน จากนั้นจึงนำร่างใส่โลงและขับรถทะเบียน ผค 6848 เดินทางมายังวัดเพื่อประกอบพิธีตามโครงการฌาปนกิจของวัด
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่วัดเปิดโลงเพื่อเตรียมพิธี กลับพบว่าคุณยายยังมีลมหายใจและขยับตัวได้ ทำให้วัดรีบประสานนำส่งโรงพยาบาลทันที โดยเจ้าอาวาสยืนยันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือคุณยายอย่างเต็มที่
ต่อมาเวลา 20.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 68 โรงพยาบาลบางใหญ่ จ.นนทบุรี ตรวจร่างกายอย่างละเอียดและยืนยันว่า นางชลธิรศน์ ไม่ได้เกิดภาวะหยุดหายใจ อาการหลักคือภาวะน้ำตาลตก ซึ่งได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมน้องชายจึงมารับตัวคุณยายกลับวัด เตรียมเดินทางกลับ จ.พิษณุโลก แต่เจ้าอาวาสขอร้องให้พักรักษาตัวให้แข็งแรงก่อนค่อยเดินทางกลับบ้าน
ด้านนายมงคล น้องชายของผู้ป่วย กล่าวว่าก่อนหน้านี้พี่สาวมีอาการหยุดหายใจตั้งแต่วันเสาร์ ญาติและผู้ใหญ่บ้านตรวจแล้วไม่พบชีพจร จึงเซ็นรับรองการตาย เพราะต้องรีบดำเนินการขอรับบริจาคโลง เนื่องจากพี่สาวตั้งใจมอบร่างเป็นอาจารย์ใหญ่แก่ รพ.จุฬาฯ เกรงว่าหากปล่อยไว้นานศพอาจเน่า และไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน
หลังใส่ร่างในโลง เขาคลุมโลงด้วยผ้าพลาสติกเพื่อความเรียบร้อย ก่อนออกจากบ้านเวลา 03.00 น. เดินทางถึง รพ.จุฬาฯ เวลา 10.00 น. แต่เมื่อไปติดต่อ กลับไม่มีใบชันสูตรการเสียชีวิต ทำให้โรงพยาบาลแนะนำให้เข้าแจ้งความที่ สน.ยานนาวา แต่ตำรวจแจ้งว่าเหตุเกิดในพื้นที่อื่น ต้องกลับไปแจ้งในท้องที่นั้น
สุดท้าย นายมงคลจึงนำร่างพี่สาวมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม เพื่อขอทำพิธีเผา เพราะทราบว่าทางวัดอนุเคราะห์ฌาปนกิจฟรี หวังจะไม่เป็นภาระค่าใช้จ่าย ก่อนจะพบเหตุการณ์สุดพลิกผันที่ไม่มีใครคาดคิดเช่นนี้
