พ่อพาลูกสาวป่วยธาลัสซีเมีย “นอนในหลุม” ซ้อมให้คุ้นเคยกับความตาย เปิดชีวิตหลังผ่านไป 8 ปี
ในปี 2017 ครอบครัวชาวจีนที่ยากจนในหมู่บ้านจิ่วจื่อเหยียน มณฑลเสฉวน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายจนวันที่ลูกสาวคนแรก “จาง ซินเล่ย” ลืมตาดูโลก ท่ามกลางความสุขมหาศาลของพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม เพียงสองเดือนต่อมา ทุกอย่างกลับพังทลาย เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าซินเล่ยป่วยเป็น โรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง โรคพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ต้องถ่ายเลือดตลอดชีวิต หรือปลูกถ่ายไขกระดูกเท่านั้นจึงจะรอด

เมื่อความจนทำให้พ่อ “ขุดหลุมศพ” ให้ลูกน้อย
จาง ลี่หยง และภรรยาเป็นเพียงคนงานโรงงานแก้ว รายได้เพียงเดือนละ 5,000 หยวน (ราว 25,000 บาท) ในขณะที่ค่าผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านหยวน พวกเขาขายทรัพย์สินทั้งหมดและกู้เงินจากเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่พอจ่ายค่ารักษา และเมื่อซินเล่ยอายุได้ 2 ปี อาการของเธอกลับทรุดหนักลง
คืนหนึ่งผู้เป็นพ่อเอ่ยถามภรรยาเสียงสั่นว่า “ถ้าต้องนอนอยู่ใต้ดินคนเดียว ลูกจะกลัวไหม?” คำตอบที่ได้รับคือ “คนตายแล้วจะกลัวอะไรอีก” แต่หัวใจพ่อกลับไม่ยอมรับ เขาจึงตัดสินใจขุดหลุมศพไว้ให้ลูก เพื่อให้เธอคุ้นเคยกับ “ที่พักสุดท้าย” หากวันนั้นมาถึง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จางจะอุ้มลูกมานอนเล่นในหลุมดินทุกวัน พร้อมเจ้าหมาน้อยประจำบ้าน เขาเล่นกับลูก หัวเราะด้วยกัน และเล่านิทานใต้แสงแดดอ่อน ๆ ซินเล่ยหัวเราะร่า ใช้ดินแตะหน้าพ่ออย่างไร้เดียงสา โดยไม่รู้เลยว่าพ่อกำลังเตรียม “ที่หลับใหลนิรันดร์” ให้เธอ

ปาฏิหาริย์จากน้ำใจผู้คน
ภาพของสองพ่อลูกในหลุมศพถูกชาวบ้านบันทึกไว้และเผยแพร่บนโซเชียลในปี 2017 จนสะเทือนหัวใจผู้คนทั่วประเทศ ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ มีผู้บริจาคเงินกว่า 800,000 หยวน พร้อมข้อความจากนักธุรกิจนิรนามว่า “ตราบใดที่เด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด”
ครอบครัวจางจึงกลับมามีความหวังอีกครั้ง พวกเขามีลูกคนที่สอง และเก็บเลือดจากสายสะดือไว้ใช้ปลูกถ่ายไขกระดูกให้พี่สาว ในปี 2018 การผ่าตัดสำเร็จอย่างงดงาม ซินเล่ยฟื้นคืนชีวิตใหม่ ส่วนพ่อได้กลบหลุมศพเดิมและปลูกต้นอบเชยไว้แทน
เขากล่าวทั้งน้ำตา “เมื่อถึงวันที่ต้นนี้ออกดอก ฉันจะพาลูกมาดมกลิ่นหอมของมัน”

ชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแดด
เดือนเมษายน ปี 2025 ซินเล่ยอายุครบ 9 ปี เธอเป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 สุขภาพแข็งแรง ร่าเริง และเรียนดีเหมือนเด็กทั่วไป ทุกวันนี้เธอยังคงชอบ “เล่นขุดดิน” กับพ่อเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ขุดหลุมศพอีกต่อไป — หากกำลังปลูกดอกทานตะวัน
“พ่อจ๋า เรามาปลูกแสงอาทิตย์กันนะ” เด็กหญิงพูดพร้อมรอยยิ้มสดใส เสียงหัวเราะของเธอดังก้องไปทั่วเนินดินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่แห่งความสิ้นหวัง
ต้นอบเชยที่พ่อปลูกเมื่อหลายปีก่อนได้ผลิดอกแล้ว กลิ่นหอมอบอวลทั่วบริเวณ สองพ่อลูกยืนเคียงกันใต้ร่มเงาต้นไม้นั้น ไม่มีน้ำตาอีกต่อไป มีเพียงความหวังและความรักที่เบ่งบานแทนที่ความเจ็บปวดในอดีต